ถ้าวันนี้หน่วยงานของคุณต้องการพัฒนาซอร์ฟแวร์ที่ใช้ภายในองค์กรใหม่ แต่มีเวลาจำกัดในการติดตั้ง หรือ ระบบปฏิบัติการในเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องของในองค์กร เป็นคนละตัวกัน ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อได้รู้จักกับ Web-based Application
Web-based Application หลักการจริงๆแล้วมันก็เหมือนเว็บทั่วไป แต่ Web-based Application จะถูกพัฒนาขึ้นให้เหมาะกับงานนั้นๆ ยกตัวอย่างให้เห็นแบบใกล้ตัวเลยก็คือ Gmail จะเห็นว่า เราสามารถใช้งาน Gmail ได้จาก Web Browser โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆเพิ่มเติม และ Gmail ก็ถูกออกแบบ และสร้างมาให้เหมาะสมกับการใช้งาน E-Mail อีกด้วย
แล้วเจ้า Web-based Application จะนำมาใช้ในองค์กรได้อย่างไร ?
เนื่องจากว่ารูปแบบงานของแต่ละองค์กรนั้นไม่ค่อยจะเหมือนกันซักเท่าไหร่นัก การใช้โปรแกรมสำเร็จรูป ก็คงจะใช้งานได้ในระดับนึง แต่ก็ไม่ได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการเท่าไหร่นัก บางทีต้องติดตั้ง นู้นนี่นั่นเพิ่มเติม และเมื่อต้องการจะทำ Application เฉพาะงานขึ้นมาใหม่ ก็ต้องไปติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในองค์กร หรือต้อง จัดซื้ออุปกรณ์ใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลา บางครั้งเครื่อง spec เก่าๆไม่สนับสนุนบางอย่างก็มี
แต่ถ้าเป็น Web-based Application แล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการใด ขอเพียงแค่มี Web Browser (ซึ่งทุกเครื่องก็มีอยู่แล้ว) เมื่อพัฒนาระบบงานมาแล้ว ก็สามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องติดตั้งทุกเครื่อง ติดตั้งไว้แค่ที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ก็พอ เวลาแก้ไข อัพเดท Application ก็ทำที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์เพียงที่เดียว
ถ้าเครื่องเซิร์ฟเวอร์มีปัญหาจะทำอย่างไร
การที่มีเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลาง มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือ บริหารจัดการง่าย สำรองข้อมูล และกู้คืนได้ง่าย ไม่ต้องไปสำรองข้อมูลทุกเครื่อง ระบบป้องกันต่างๆไม่ต้องไปติดตั้งทุกเครื่อง
แต่ข้อเสียก็คือ ถ้ามีปัญหาที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ ระบบทั้งระบบจะไม่สามารถใช้งานได้เลย ดังนั้นต้องใช้ข้อดีให้เป็นประโยชน์ ก็คือ หมั่นสำรองข้อมูลเก็บไว้ หรือถ้าจะให้ดีจริงๆ ควรมีเซิร์ฟเวอร์สำรองไว้
ไม่ว่าจะระบบแบบไหนก็มีทั้งข้อดูข้อเสียทั้งนั้น ก็เลือกใช้ให้ถูก ให้เหมาะกับระบบงานขององค์กร แต่ถ้าต้องการใช้ งานระบบ Web-based Application จริงๆ ทาง Chonable.com ก็รับพัฒนาระบบ Web-based Application และ รับติดตั้งระบบ Intranet ในองค์กร ด้วย เพื่อให้ระบบ Software และ Hardware ทำงานเข้ากันอย่างพร้อมเพรียง